ประวัติความเป็นมาของเปียโน
เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่ง เปียโนเป็นการขยายแนวความคิดมาจากพิณ ซึ่งความจริง แล้วถ้าเราสังเกตดูลักษณะรูปร่างของเปียโน จะเห็นว่ามัน มีลักษณะเหมือนพิณที่บรรจุอยู่ในหีบ นอกจากนี้ลักษณะ ความ โค้งของพิณและเครื่องสายที่อยู่ในเปียโนก็มีลักษณะ เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของการขึงสาย ซึ่งจะมีความ หนาและบางต่างกัน ส่งผลให้ระดับเสียงจะ มีความแตกต่างกัน เมื่อดีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายของ เปียโนที่มีความหนาและ ความยาวที่บรรจุอยู่ภายใน ทำให้เปียโนมีเสียงที่แตกต่าง และมีระดับเสียงที่มากกว่า นอกจากนี้เมื่อดีดเปียโนที่หนัก แน่นหรือเบากว่า ก็ทำให้ได้เสียงที่แตกต่างมากขึ้น ประวัติโดยตรงของเปียโนนั้นเปียโนมีต้นกำเนิดมจาก เครื่องดนตรีสองชนิด ได้แก่ ซอสเตอร์รี่(psaltery) และ ดูซิเมอร์ (dulcimer) โดยซอสเตอร์รี่ มีลักษณะเป็นกล่อง ตื้นๆที่ขึงสายขวางกันไว้ ที่ด้านบนสุดเพื่อดีด ดูซิเมอร์ ก็มี ลักษณะคล้ายกัน แต่การดีดจะต้องออกแรงมากกว่า ซอสเตอรรี่เป็นเครื่องนำร่องให้กับเปียโนโบราณ ที่เรียกว่า “ฮาฟซิกคอร์ด”(harpsichord) .และในเวลาไม่นานหลัง
จากนั้นในปี ค.ศ. 1157 ได้มีการประดิษฐ์เปียโนที่เรียกว่า “คลาวีดอร์ด”(clavichord) โดยมีพื้นฐานจากดูซิเมอร์ ที่มีความสวยงามน่ารักมากกว่า ซึ่งมีลักษณะเป็นโมโนคอร์ด (mono chord) มีความโค้งสัมผัสหรือฆ้อนที่ตรึงอยู่ด้านหลังของคีย์ ซึ่งคีย์นี้เมื่อยกขึ้นก็สามารถสร้างสรรโน้ตได้ และเมื่อเพิ่มสายเข้าไป ก็ทำให้ “คลาวีคอร์ด” เป็นเครื่องดนตรีที่มีชีวิตชีวา ในปี ค.ศ. 1400 “คลาวีคอร์ด” มีประมาณ 10 สาย และสามารถเล่นได้ในรูปแบบที่ทันสมัย สายเปียโนส่วนใหญ่เป็นเส้นลวด แต่ก็ไม่เสมอไป จากต้นกำเนิดดังกล่าว พิณและเปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่มีสายที่ทำจาก ทองเหลือง ทอง เงิน ตะกั่ว ขนม้า และแม้แต่บางครั้งทำมาจากรากไม้ คลาวีคอร์ด มีลักษณะเหมือนเปียโนกล่องเล็กที่สามารถถือได้ ในปี ค.ศ. 1450 คีย์บอร์ด ได้มีการพัฒนาในการตั้งและวางสายที่เรียกว่า “สปินเน็ท” (spinet) ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวอิตาเลียนที่ชื่อว่า “จีโอวานนิ สะปินเน็ท” (Giovanni Spinette) และต่อมาได้มีการพัฒนาให้มีการนั่งเวลาเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ นักเปียโนที่มีชื่อเสียง ได้แก่ โมสาร์ท (Mozart) บีโทเฟน (Beethoven) และ สตร็อท (Strauss) ซึ่งมารดาของ โมสาร์ทเป็นผู้กระตุ้นเร้าให้เขาเล่น major C scale ตั้งแต่อายุเจ็ดปีและจากเขาไปเมื่ออายุสิบแปดปี ระบบเสียงที่มีความไพเราะของเปียโน ที่ได้รับการประดิษฐ์สร้างสรร มีอานุภาพต่อผู้ที่ได้รับฟัง ขณะที่เล่นได้อย่างอัศจรรย์และยอดเยี่ยม
เปียโน [Piano]เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายในปลายคริสตศตวรรษที่ 18 เสียงของเปียโนเกิดจากการสั่นสะเทือนของสายที่ถูกฆ้อนเล็กๆตีสายซึ่งขึงอยู่ข้างในเมื่อผู้เล่นกดคีย์และเมือผู้เล่นยกนิ้วขึ้นสักหลาดชิ้นเล็กๆจะกลับทาบลงบนสายทำให้หยุดความสั่นสะเทือนเสียงก็จะหยุด เปียโนสามารถทำให้เสียงยาวได้โดยเหยียบ Pedalเปียโนมีช่วงเสียงกว้างมากสามารถเล่นให้มีเสียงดัง-เบาได้ตามความแรงของนิ้วที่กดลงบนคีย์ ชื่อเรียกเต็มคือเปียโนฟอร์เต้ (Piano-forte)เป็นภาษาอิตาเลี่ยน หมายความว่าเล่นได้ทั้งเบาและดัง (piano แปลว่าเบา forte แปลว่าดัง)